กองทุนเพื่อความยุติธรรม ในคณะกรรมการ คปป.
คำแนะนำและคำยินยอมสำหรับผู้ยื่นคำขอกองทุนเพื่อความยุติธรรม คปปสำหรับผู้ยื่นคำขอกองทุนเพื่อความยุติธรรม คปป. คณะกรรมการป้องกันอาชญากรรมและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนออนไลน์เป็นช่องทางการยื่นขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมในเบื้องต้น ตามภารกิจและวัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อความยุติธรรม ดังนี้
1. การช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินออรถคดีตั้งแต่ชั้นแสวงหาพยานหลักฐานนอกศาลไปจนถึงการพิจารณาคดีในชั้นศาลทุกกระบวนการของอรรถคดีคดี ผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
2. การช่วยเหลือด้านอื่นๆของผู้เกี่ยวข้องกับคดี
ผู้ร้องผู้ขอรับบริการหรือผู้ขอความช่วยเหลือทางกฎหมายหรือที่มีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่น มีความประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือเงินหรือค่าใช้จ่ายจาก กองทุนเพื่อความยุติธรรม คปป. คณะกรรมการป้องกันอาชญากรรมและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนออนไลน์เป็นช่องทางการยื่นขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมในเบื้องต้น ตามภารกิจกองทุนยุติธรรม ดังนี้
ข้อ 1. การช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินออรถคดีตั้งแต่ชั้นแสวงหาพยานหลักฐานนอกศาลไปจนถึงการพิจารณาคดีในชั้นศาลทุกกระบวนการของอรรถคดีคดี ผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนค่าจ้างทนายความ ค่าที่ปรึกษาหรือผู้ช่วยเหลือทางกฎหมายในการดำเนินคดี หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ค่าฤชาธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายก่อนยื่นฟ้องคดี การไกล่เกลี่ยเพื่อระงับข้อพิพาทที่มีกฎหมายบัญญัติรับรองค่าใช้จ่ายในการประนอมหนี้และการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดี เช่น ค่าตรวจพิสูจน์ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐาน ค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมเอกสาร ค่าใช้จ่ายในการ สอบแนวเขตรังวัดที่ดิน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศหรือทางดาวเทียม การอ่าน แปล ตีความ หรือวิเคราะห์ภาพถ่ายค่าใช่จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดี ค่าพาหนะเดินทาง ค่าเช่าที่พัก ค่าวิชาชีพคณะกรรมการ คณะทำงาน ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมาย รวมทั้งค่าป่วยการ และค่าอื่นๆ
1.2.การช่วยเหลือด้านอื่นๆของผู้เกี่ยวข้องกับคดีตามประกาศคณะกรรมการฯกำหนด
1.3.ผู้ร้องขอมีสถานะทางครอบครัวที่ลำบาก สถานะทางการเงินรวมทั้งครอบครัวแล้วไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมเองได้
ข้อ 2. เป็นคดีอาญาหรือคดีอื่นๆที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนโดยมิใช่คดีที่มีส่วนได้เสียเป็นการส่วนตัว หรือคดีอื่นๆตามมติคณะกรรมการกองทุนฯกำหนด
ข้อ 3. ไม่เป็นผู้ซึ่งเคยได้ยื่นเรื่องหรือรับเงินกรณีทำนองเดียวกันดังกล่าวจากกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม หรือหน่วยงานอื่นมาก่อน
ข้อ 4. ไม่ปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์แห่งคดีไม่ว่าขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง
ข้อ 5. ในกรณีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีหากเป็นการที่ผู้ให้ความช่วยเหลือจ่ายเงินโดยตรงให้แก่ผู้ขอรับความช่วยเหลือ ผู้ขอรับความช่วยเหลือตกลงว่าจะนำเงินที่ได้รับความช่วยเหลือดังกล่าวไปใช้ตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ข้างต้นอย่างเคร่งครัด
ข้อ 6. เมื่อศาลสั่งคืนค่าธรรมเนียมศาลหรือเงินค่าทนายความ ผู้ขอรับความช่วยเหลือจะต้องนำเงินที่ได้รับทั้งหมด แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ได้รับจากผู้ให้ความช่วยเหลือคืนให้ผู้ให้ความช่วยเหลือภายใน ๑๕ (สิบห้า) วัน นับแต่วันที่ได้รับเงินดังกล่าว
ข้อ 7. ในกรณีที่ขอรับความช่วยเหลือและได้รับเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปก่อนแล้วจากผู้ให้ความช่วยเหลือ หากภายหลังได้รับการชดใช้ หรือได้รับการชำระหนี้ หรือได้รับตามคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาล ผู้ขอรับความช่วยเหลือจะนำเงินที่ได้รับทั้งหมดดังกล่าว แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ได้รับจากผู้ให้ความช่วยเหลือคืนผู้ให้ความช่วยเหลือภายใน ๑๕ (สิบห้า) วัน นับแต่วันที่ได้รับเงินดังกล่าว
ข้อ 8. หากผู้ขอรับความช่วยเหลือผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้ขอรับความช่วยเหลือยินยอมรับผิดชดใช้เงินที่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ให้ความช่วยเหลือแล้วแต่กรณี รวมทั้งค่าใช้จ่ายทั้งปวงในการเตือน ทวงถาม เรียกร้องให้ชำระหนี้ ตลอดจนค่าฤชาธรรมเนียม ค่าทนายความ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีกับผู้ขอรับความช่วยเหลือ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการบังคับคดีให้ชำระหนี้คืนให้แก่ผู้ให้ความช่วยเหลือด้วยภายใน 30 (สามสิบ) วันนับแต่วันที่ผู้ขอรับความช่วยเหลือผิดสัญญา
ข้อ 9. ผู้ขอรับความช่วยเหลือรับรองว่า ข้อเท็จจริงต่างๆ รวมทั้งข้อมูลเอกสารที่ให้ไว้ต่อเจ้าหน้าที่หรือคณะอนุกรรมการนั้นเป็นความจริง หากปรากฏในภายหลังว่า ผู้ขอรับความช่วยเหลือให้ข้อเท็จจริงหรือแสดงข้อความอันเป็นเท็จเพื่อประโยชน์แก่ตนถึงขนาดว่า หากไม่แสดงความอันเป็นเท็จจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกองทุน คณะอนุกรรมการหรือประธานอาจยกเลิกการอนุมัติ หรือการจ่ายเงินดังกล่าวได้ เมื่อคณะอนุกรรมการหรือประธานยกเลิกการอนุมัติ หรือการจ่ายเงินดังกล่าว ผู้ขอรับความช่วยเหลือซึ่งได้รับเงินช่วยเหลือไปแล้วจะต้องชำระเงินคืนแก่ผู้ให้ความช่วยเหลือภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งให้คืนเงิน พร้อมทั้งค่าปรับในอัตราราคาประเมินความเสี่ยง 10 เท่า และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพราะทำให้ผู้อื่นเสียโอกาสและทำให้คณะทำงานฯเสียเวลากับคำอันเป็นเท็จ
ข้อ 10. ยินยอมรับเงื่อนไขตามข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง และอื่นๆที่เกี่ยวข้องไม่ว่าช่องทางใดๆ
ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นเป็นความจริงทุกประการ โดยได้อ่าน ได้ฟังแล้วรับว่าเข้าใจเป็นอย่างดีแล้วและยินยอมรับเงื่อนไขโดยทุกประการดังกล่าวตามข้อบังคับฯ และดำเนินการแสกนรหัสภาพ QR COOD เพื่อดำเนินการต่อไป (โดยระยะเวลาที่คณะกรรมการฯพิจารณา 7 วันหลังจากที่ได้รับคำร้องขอที่สมบูรณ์)
แสกนเพื่อยื่นคำขอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
